“พฤติกรรมการกินมากเกินไป” เป็นปัญหาที่พบมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เพราะเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยวนใจจากสื่อออนไลน์ โปรโมชั่นโดนใจบนโซเชียลมีเดียที่เข้าถึงง่าย รวมถึงการสั่งอาหารบนแอปพลิเคชันก็ทำได้อย่างง่ายดาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความหิวได้ง่าย ๆ อยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถควบคุมการกินของตัวเองได้ดีเหมือนแต่ก่อน จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพตามมาหากยั้งปากไม่ทัน ไม่เพียงเท่านั้น คนวัยทำงานในยุคปัจจุบัน เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญกับความเครียดตลอดเวลา ความเครียดจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเกิดความหิวมากเกินกว่าปกติโดยที่ไม่รู้ตัว เวลาที่คุณเครียด คุณมักจะหันไปแสวงหาความสุขจากการกินชั่ววูบทันทีในตอนนั้น โดยคนส่วนมากเวลาที่เกิดความหิว 100% จะเลือกกินไปจนถึง 300% ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาน้ำหนักตัวเกินและสุขภาพที่เสื่อมลงในที่สุด!
การจัดการกับปัญหาการกินเกินไปนั้น
ไม่ใช่แค่การควบคุมปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวัน
แต่ยังต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและไลฟ์สไตล์ทั้งหมดควบคู่กับไป
ไม่ว่าจะเป็น
1. กินตามหลัก 80% การจัดการกับปัญหาการกินเกินความจำเป็น หลักการง่าย
ๆ คือการกินเมื่อรู้สึกหิว 100% แต่หยุดกินเมื่อรู้สึกอิ่มเพียง 80%
ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
และยังป้องกันการรับพลังงานเกินที่อาจสะสมเป็นไขมันส่วนเกินได้อย่างดี
2. การเลือกโภชนาการอาหาร
การเลือกบริโภคอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ ควรค่อย
ๆ
ปรับไลฟ์สไตล์การกินโดยเน้นสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อให้ร่างกายทำงานได้เต็มที่เพียงพอสำหรับทำกิจกรรมต่าง
ๆ และอย่าอดอาหารโดยไม่จำเป็น
เพื่อป้องกันการกลับมาน้ำหนักขึ้นหรือโยโย่ในอนาคต
3. กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ด้วยการทำ Intermittent Fasting (IF) และ
One Meal A Day (OMAD)
เป็นแนวทางที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย การทำ IF
ช่วยให้ร่างกายมีช่วงเวลาที่ไม่ต้องย่อยอาหาร
ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันสะสมได้มากขึ้นและปรับสภาพเซลล์ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รวมถึงยังรักษาสมดุลของ insulin ให้ดีขึ้นอีกด้วย
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเวทเทรนนิ่ง คาร์ดิโอ
หรือการยืดเหยียด
ช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
การออกกำลังกายยังช่วยปรับสมดุลของร่างกายและช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน
ในทุกวันนี้มีการศึกษาและงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอย่างเทรนด์
Longevity
เป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพที่เน้นการยืดอายุขัยของมนุษย์ให้นานขึ้น
พร้อมกับการมีสุขภาพจิตที่ดีควบคู่กันไปในระยะยาว
มีงานวิจัยทั่วโลกรองรับว่า
การปรับสารอาหารและพฤติกรรมบางอย่างสามารถช่วยให้คนมีอายุยืนขึ้นและสุขภาพดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน
สารสกัดที่เป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในวงการสุขภาพทั่วโลกนั้นมีหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็น
• Ginger Extract (สารสกัดจากขิง)
ช่วยเผาผลาญไขมันโดยกระตุ้นไขมันสีขาวให้กลายเป็นไขมันสีน้ำตาล
ซึ่งเพิ่มการเผาผลาญภายในร่างกาย
• Green Tea Extract (สารสกัดจากชาเขียว)
ลดการดูดซึมไขมันและน้ำตาลในลำไส้
กระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและช่วยลดน้ำหนัก
• Green Coffee Bean Extract (สารสกัดจากเมล็ดกาแฟสีเขียว)
ลดคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด
เพิ่มการทำงานของอินซูลินและลดการสะสมไขมัน
• Black Pepper Extract (สารสกัดจากพริกไทยดำ) มีสาร Piperine
ที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและลดขนาดเซลล์ไขมันใต้ผิวหนังรวมถึงในช่องท้อง
• Garcinia Extract (สารสกัดจากผลส้มแขก) มีสาร HCA
ยับยั้งการสะสมไขมันและลดความอยากอาหาร
ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
• Inulin
เป็นเหมือนเส้นใยละลายน้ำที่ช่วยดูดซับไขมันจากอาหารในระบบย่อยอาหาร
ทำให้ร่างกายดูดซึมไขมันลดลง
ซึ่งสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
• Selenium แร่ธาตุที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ลดความเสียหายจากการเกิดออกซิเดชัน รักษาสมดุลระบบเผาผลาญ
และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
สารสกัดเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงระบบเผาผลาญและช่วยดูแลสุขภาพในระยะยาว
ทำให้เป็นตัวช่วยสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพและควบคุมน้ำหนักได้นั่นเอง
สำหรับใครที่ต้องการดูแลสุขภาพหรือต้องการควบคุมความหิวและปรับระบบเผาผลาญให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำ Dr.Jel LF ที่รวมสารสกัดสมุนไพร 9 ชนิด นวัตกรรม Hungrust ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Dr.Jel เท่านั้นที่ทั้งเห็นผลเร็ว ดีต่อสุขภาพในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นสูตรเดียวของโลกที่ทำงานและเกิดผลลัพธ์ระดับนาโน มีผู้ที่ทดลองแล้วได้ผลลัพธ์จริงกว่า 99% มากไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวนี้ได้ผ่านการวิจัยร่วมกับกับมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ทำการทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ผลการวิจัยออกมาพบว่า Dr.Jel LF มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์แอลฟาอะไมเลสและแอลฟากลูโคซิเดสได้อย่างดี ทำให้ Dr.Jel LF มีประสิทธิภาพในการควบคุมน้ำตาลในเลือดผ่านการยับยั้งเอนไซม์แอลฟาอะไมเลสและแอลฟากลูโคซิเดสได้ และช่วยให้ร่างกายอิ่มนาน อิ่มไวขึ้น
ล่าสุดวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับนิตยสาร Business+ ได้คัดเลือกรางวัล Product of the year 2024 โดยคัดเลือกจากสินค้าที่มีนวัตกรรมโดดเด่นในท้องตลาด ในกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีนวัตกรรมโดดเด่นและเห็นผลจริง ซึ่งผลิตภัณฑ์ Dr.Jel LF ที่คิดค้นนวัตกรรม Hungrust ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Dr.Jel อีกทั้งยังมีงานวิจัยรองรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มาพร้อมกับผู้พิสูจน์จริงที่ได้ผลกว่า 99% จึงทำให้แบรนด์ Dr.Jel ได้รับรางวัล Product of the year ต่อเนื่องมาถึง 4 ปีซ้อนจากมหาวิทยาลัยมหิดล
สำหรับใครที่มีปัญหาน้ำหนักเกิน หรือต้องการปรับพฤติกรรมการกินให้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ Lean Fast สามารถมั่นใจในอาหารเสริมตัวนี้ได้เลยว่าจะช่วยกำจัดไขมันเก่าสะสมได้ดีที่สุดพร้อมทั้งเปลี่ยนมาเป็นพลังงานแทน ลดการดูดซึมแป้งและน้ำตาล ทำให้คุณกลับมาสดใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งดูแลสุขภาพของคุณให้กลับมาแข็งแรงได้ในระยะยาวอย่างแน่นอน